Main Menu

Recent posts

#1

TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Premium ได้เวลาเปิดตัวสักที สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้สดๆ ร้อนๆ เพราะว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่หลายคนรอคอยมากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพการใช้งานทุกเส้นทาง ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายทุกการขับขี่ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนพูดถึง และรอคอย ที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับรุ่นนี้
ขุมกำลังของ TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Premium

เครื่องยนต์
•   ใช้เครื่องยนต์ 2ZR-FXE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
•   ปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 1,798 ซีซี
•   กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 72 แรงม้า ที่/ 5,200 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 142/ 3,600 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   รองรับการใช้น้ำมัน E20
•   ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

มอเตอร์ไฟฟ้า
•   ใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัส 600 โวลต์
•   กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์
•   แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร

ดีไซน์ภายนอก
ไฟหน้าของรุ่นนี้ ได้ไฟหน้า LED แบบไฮบริดจ์ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED LIGH GUIDING ไฟเลี้ยวด้านหน้าเป็นแบบ LED กระจกมองด้านข้างมีไฟหน้าในตัว และพับเก็บอัตโนมัติเมื่อจอดกระจกมองด้านข้างมีไฟหน้าในตัว และพับเก็บอัตโนมัติเมื่อจอด ระบบการเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED ใช้เสาอากาศแบบครีบฉลาม และแผ่นกันความร้อนที่ฝากระโปรง ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home

ดีไซน์ภายใน
สีภายในของรุ่นนี้เป็นสีแดง Terra Rossa ดำ เบาะนั่งภายในรถเป็นเบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับแยกได้ พนักวางแขนด้านหน้า สามาถปรับเลื่อนได้ มือเปิดประตูเป็นโครเมียม แผงกั้นสัมภาระด้านท้ายรถ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง กระจกหน้าต่างพร้อมป้องกันการหนีบ 4 ตำแหน่ง กระจกแต่งหน้าบริเวณแผงบังแดด ระบบสตาร์ตแบบอัจฉริยะ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
รุ่นนี้ได้เป็นหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth สามารถเชื่อมโยงกับระบบ Apple Carplay ระบบเชื่อมต่อ T-Connect ลำโพง 6 ตำแหน่ง มีระบบการโทรออกด้วยเสียงได้

ระบบความปลอดภัยของ TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Premium
ถุงลมนิรภัยระบบ SRS คู่หน้า ด้านข้าง ม่านคนขับ หัวเขาคนขับ และเบาะนั่งด้านหลัง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน  รุ่นนี้มาพร้อมระบบเบรกแบบ(ABS) ป้องกันล้อล็อก ระบบการช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนที่ลาดชัน(HAC) เข็ม ระบบกระจายแรงเบรกแบบ(EBD) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ตัวช่วยควบคุมการทรงตัว(VSC) ขัดนิรภัยด้านหน้า 2 จุด และด้านหลัง 3 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน กล้องมองขณะถอยหลัง และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ ระบบกุญแจนิรภัย

ราคา
TOYOTA COROLLA CROSS Hybrid Premium มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,094,000 บาท


ท่านใดที่ต้องการความหรูหรา สะดวกสบายในทุกการเดินทาง รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน การขับขี่ที่นิ่มสบาย ราคาเท่านี้กับของที่ได้ บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม อีกอย่างรุ่นนี้มีสีให้เลือกมากถึง 7 สี ซึ่งมากกว่ารุ่นอื่นเยอะทีเดียว ท่านจะได้เลือกทั้งรุ่นที่ถูกใจ และสีที่ถูกใจด้วย
#2

All-new Ford Everest 2023 รถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Ford มีการเปิดเผยว่าจะมีออกมาด้วยกัน 4 รุ่นย่อยด้วยกันในรุ่นนี้ ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกันของแต่ละรุ่นอยู่ในเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ บทความนี้จึงจะพาไปเจาะลึกดูกันว่ามีจุดไหนบ้างที่แตกต่างกันอยู่ของทั้ง 4 รุ่น โดยทั้ง 4 รุ่นประกอบไปด้วย Ambient, Trend, Sport และ Platinum ที่รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

All-new Ford Everest 2023 รุ่น Ambient

    ไฟหน้ารถจะเป็นแบบ C-Clamp LED, กระจังหน้าทรง Signature Grille และมีกรอบไฟตัดหมอกที่ตกแต่งด้วยสีเงินสวยโดดเด่น, ล้ออัลลอยแบบ 6 ก้าน ขนาดอยู่ที่ 17 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้าสีดำสวยดุดัน, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD เป็นระบบสัมผัสครบวงจร มีขนาด 10.1 นิ้ว

All-new Ford Everest 2023 รุ่น Trend

    กระจังหน้าของรถและกรอบไฟตัดหมอกจะเป็นแบบโครเมียม. ได้ล้ออัลลอย 6 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ Ebony Black ดีไซน์ตะเข็บเฉพาะรุ่นนี้โดยเฉพาะไม่เหมือนรุ่นไหนๆ และมี หน้าจอ LCD แบบสัมผัสครบวงจรขนาดใหญ่ 12 นิ้ว

All-new Ford Everest 2023 รุ่น Sport

    กระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกตกแต่งด้วยสีดำสวยโดดเด่น, ,uมีสัญลักษณ์คำว่า EVEREST อยู่เหนือฝากระโปรงด้านหน้า ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น, ด้านล้อเป็นล้ออัลลอยสีดำมีขนาด 20 นิ้ว และเบาะนั่งหุ้มหนังดีไซน์ตะเข็บเฉพาะรุ่น Sport นี้โดยเฉพาะอีกด้วย

All-new Ford Everest 2023 รุ่น Platinum

สำหรับรุ่น TOP ต้องบอกได้ว่าออฟชั่นจัดเต็มกันแบบจุกๆ โดยความแตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นๆมีทั้งหมดดังนี้

ไฟหน้าเป็นแบบ Matrix LED สุดไฮเทค, กระจังหน้าที่ออกแบบดีไซน์มาให้เฉพาะรุ่น Platinum เท่านั้น ส่วนกระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกแบบ Silk Chrome, มีสัญลักษณ์ PLATINUM เหนือฝากระโปรงหน้าทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น, ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่สุดของรุ่น 21 นิ้ว แล้วยังเป็นสีทูโทน, บันไดข้างรถตกแต่งด้วยสีเงินสวยเด่น, มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาดใหญ่ที่สุด 12.4 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังพรีเมียม ดีไซน์ตะเข็บเฉพาะรุ่น Platinum เท่านั้น แล้วเบาะของผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้มากถึง 10 ทิศทางด้วย, ระบบอุ่นและระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้าที่ยอดเยี่ยม และ หลังคารถเป็นแบบ Panoramic Roof

ทั้งหมดคือความแตกต่างของทั้ง 4 รุ่นย่อย Ambient, Trend, Sport และ Platinum ที่เห็นชัดมากๆของ    All-new Ford Everest 2023 ส่วนราคาของทั้ง 4 รุ่น มีดังนี้

Ford Everest 2023 ราคา

รุ่น Trend ราคา 1,354,000 บาท
รุ่น Sport ราคา 1,484,000 บาท
รุ่น Titanium+ 4×2 ราคา 1,724,000 บาท
รุ่น Titanium+ 4×4 ราคา 1,874,000 บาท
#3

พัทยา เมืองที่ได้รับความรู้จักไปทั่วโลกจากความโดดเด่นหลายอย่างของที่นี่ ทำให้ทุกวันนี้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่แน่นขนัดไปด้วยที่พักมากมายตั้งแต่ใหญ่ถึงเล็ก เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะไทยหรือว่าต่างประเทศ แล้วด้วยความที่มีที่พักเยอะมากๆ ทำให้ใครหลายคนอาจจะตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเลือกที่ไหนดี วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำ 5 ที่พักที่คุ้มค่าในการเลือก ที่ทั้งราคาดีและบรรยากาศโดนใจในปี 2023 กัน

แนะนำ 5 ที่พักพัทยาราคาดีบรรยากาศโดนใจ 2023

1.   The Grass Serviced Suites by At Mind
ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่โซนพัทยาใต้ เป็นที่พักทันสมัยในปี 2023 มีการตกแต่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จากการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ว่าคลาสสิค ราคาเข้าพักเพียง 500 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาดีมากๆเมื่อเทียบกับทำเลทองที่อยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญๆในการท่องเที่ยวได้ครบ แล้วที่นี่ยังมีที่จอดรถที่กว้างขวางมากๆอีกด้วย

2.   Mood Hotel
ถ้ากำลังมองหาที่พักติดทะเลราคาสบายกระเป๋า ต้องมอง Mood Hotel เอาไว้เป็นตัวเลือกอีกแห่ง ที่พักใจกลางเมืองพัทยาแห่งนี้ มีค่าเข้าพักเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้นเอง มาพร้อมกับการตกแต่งที่โดดเด่นไม่เหมือนที่ไหนๆ งานศิลปะทันสมัยสุดน่ารักโทนเหลือง ที่ใครเห็นแล้วก็ต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ ทั้งยังครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้หมด มาพักที่นี่รับรองว่าต้องชอบ

3.   The Corner Lodge
The Corner Lodge คือที่พักที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว ถึงจะอยู่ในระดับ 5 ดาวก็จริง แต่ราคาไม่ได้แพงหรือแรงอย่างที่คิด ด้วยที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองพัทยา ไปไหนก็สะดวกง่ายดาย ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูดีและทันสมัยในโลกยุคปี 2023 อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาแบบครอบครัว ที่พักแห่งนี้จะที่พักที่แนะนำว่าเหมาะสมในการพักผ่อน

4.   SN Connx
อีกหนึ่งที่พักที่ติดทะเลพัทยา คือที่นี่ SN Connx กับราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาท ที่พักจัดเต็มแบบทันสมัย ดีไซน์ที่หรูหรา คุณภาพคับแก้วทุกอย่างก้าว ได้บรรยากาศแบบชาวยุโรป จนไม่น่าเชื่อว่าราคาพักจะถูกขนาดนี้ ส่วนเรื่องการดูแลหรือความสะดวกสบายหายห่วงได้เลย ที่พักที่นี่คือที่ที่ดีมากๆแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา

5.   Zand Morada Pattaya
Zand Morada Pattaya ตั้งอยู่ติดหาดจอมเทียน ที่เป็นหาดสวยงามลำดับต้นๆของชลบุรี นี่คือที่พักที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจมากๆ มีบรรยากาศดีสุดๆ มองวิวจากหน้าต่างจะเห็นท้องทะเลสวยงาม อาหารอร่อยถูกปาก ช่วงเย็นเดินลงไปนั่งเล่นรับลมริมทะเลได้อีกด้วย ไม่ผิดหวังแน่นอนหากเลือกมาพักยัง Zand Morada Pattaya
#4

ถ้าถามว่าเกาะในภาคตะวันออก เกาะไหนที่มีความสวยงามและน่าเที่ยวมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องเป็น เกาะช้าง จังหวัดตราด แน่นอน เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงและน่าเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ที่น่าสนใจกว่านั้น เกาะแห่งนี้ยังสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ถ้าคุณอยากจะเที่ยวทะเลเที่ยวเกาะ ที่ไม่ห่างจากกรุงเทพเท่าไหร่ มาที่เกาะช้างนี่แหละ เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ก่อนอื่น เราจะพาทุกท่านมาดูรายละเอียดของเกาะแห่งนี้กันก่อน ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ ก่อนเดินทางไปเที่ยวจริง

กิจกรรมที่น่าสนใจ


ต้องบอกก่อนว่า เกาะช้าง เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย มีพื้นที่เยอะมาก ดังนั้นการเที่ยวที่เกาะช้าง อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย ถึงจะเที่ยวได้ทั่ว และเมื่อท่านเดินทางมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้แล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ
•   ลงเล่นน้ำทะเล ที่เกาะช้างมีหลายจุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ เช่นที่หาดทรายขาด อ่าวคลองสน  หาดคลองพร้าว เป็นต้น ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำมากที่สุด และมีร้านอาหาร เครื่องดื่มเยอะด้วย เป็นหาดที่น่าสนใจมากอีกหนึ่งที่
•   ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่หาดบางเบ้า หมู่บ้านประมงบางเบ้า เป็นแหล่งชุมชนที่น่าสนใจ ที่นี่คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ยิ่งท่านใดที่ชอบทานอาหารทะเลสดๆ จากทะเล สามารถเข้ามาทานที่หมู่บ้านนี้ได้ มีอาหารอร่อยๆ เยอะมาก
•   เที่ยวน้ำตก บนเกาะช้างมีน้ำตกที่สวยงามให้เราได้เที่ยวด้วย และน้ำตกที่น่าสนใจก็คือ น้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู เป็นน้ำตกที่มีไหลผ่านธารหินมาเรื่อยๆ เป็นชั้นๆ มีทั้งหมด 4 ชั้น มองดูแล้วสวยงามตระกาลตามากๆ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมวิว นั่งชมบรรยากาศ หรือว่าจะลงเล่นน้ำก็ได้เช่นกัน
•   เที่ยววัดสลักเพชร ที่อ่าวสลักเพชร บ้านสลักเพชร เป็นจุดที่เหมาะกับการชมวิว และการเที่ยวเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นอกจากนี้ท่านยังสามารถเข้าวัดที่วัดสลักเพชร มาทำบุญไหว้พระที่นี่ได้เช่นกัน เป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะช้าง

การเดินทาง
เมื่อท่านเดินทางมาถึงจังหวัดตราดแล้ว ท่านต้องนั่งข้ามเรือข้ามฟากเพื่อไปยังเกาะช้างต่อไปอีก ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะถึง ส่วนค่าใช้จ่ายในการโดยสาร ก็ขึ้นอยู่กับประเภทเรือที่ท่านเลือก

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
บนเกาะช้างมีที่พักเยอะมาก มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบรีสอร์ท บ้านพัก บังกะโล ซึ่งอ่าวทุกอ่าวและหาดทุกหาด ล้วนมีที่พักให้บริการทุกอ่าว ส่วนร้านอาหารก็เยอะไม่แพ้กัน อาหารรสชาติอร่อย มีทั้งอาหารพื้นบ้าน และอาหารทั่วไป ที่มีความสดใหม่ อร่อยทุกวัน

พิกัดของ เกาะช้าง
ตั้งอยู่ที่ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย
#5

ประวัติ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ นักเตะทีมชาติกาน่าของ คริสตัล พาเลซ
ทีมชาติ : กาน่า 20 นัด – 1 ประตู (2011-?)
สโมสรปัจจุบัน : คริสตัล พาเลซ 199 นัด – 17 ประตู (2017-?)

เจฟฟรีย์ ชลุปป์ เกิดวันที่ 23 ธันวาคม 1992 ที่ประเทศเยอรมัน เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2005 แล้วได้รับสัญญานักเตะอาชีพในปี 2010 ซึ่งในฤดูกาล 2010/11 ถูกส่งให้ เบรนท์ฟอร์ด (ลีกวัน) ยืมตัวไปใช้งาน ได้ลงเล่น 10 นัด ยิง 6 ประตู
ฤดูกาล 2011/12 เลสเตอร์ ซิตี้ เลือกใช้งาน เจฟฟรีย์ ชลุปป์ แต่ยังไม่ใช่ตัวหลัก ลงเล่น 26 นัดรวมทุกรายการยิง 6 ประตู เช่นเดียวกับฤดูกาล 2012/13 ก็ยังเป็นตัวเลือกรอง ได้รับโอกาสลงเล่น 22 นัด ยิง 3 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2013/14 ชลุปป์เริ่มได้รับโอกาสมากขึ้น ลงเล่น 32 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู ช่วยให้จิ้งจอกเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล 2014/15 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ เป็นตัวหลักของ เลสเตอร์ เป็นมิดฟิลด์ตัวหลักร่วมกับ เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่ และ ริยาด มาห์เรซ ได้ลงเล่น 35 นัดรวมทุกรายการ (ตัวจริง 32 สำรอง 3) ยิง 4 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ ลิเวอร์พูล (เสมอ 2-2)

ฤดูกาล 2015/16 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ยืนเป็นตัวหลักในช่วง 7 นัดแรก จากนั้นถูกขยับขึ้นมาเป็นปีกซ้าย มีส่วนในการพา เลสเตอร์ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงหลังผ่าน 15 นัด ทว่าหลังจากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บ พลาดการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 11 นัด แล้วกลับมาเล่นได้อีกครั้งในช่วง 10 นัดสุดท้ายของซีซั่น โดยรับบทสำรองเป็นส่วนใหญ่ มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ฤดูกาล 2016/17 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ แทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ เลสเตอร์ เลยในช่วง 20 นัดแรก แล้วในเดือนมกราคม ถูกขายให้ คริสตัล พาเลซ แล้วกลายเป็นตัวหลักของทีม ลงเล่น 16 นัด ยิง 0 ประตู ต่อมาในฤดูกาล 2017/18 ชลุปป์ ได้รับโอกาสมากขึ้น แต่ไม่ใช่ตัวหลัก ลงเล่น 27 นัดรวมทุกรายการ ยิง 0 ประตู

ฤดูกาล 2018/19 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ได้รับโอกาสมากขึ้น ลงเล่น 37 นัดรวมทุกรายการ ยิง 5 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ แต่มาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ ในฤดูกาล 2019/20 ทำให้ลงเล่นได้แค่ 17 นัดรวมทุกรายการ แล้วอีก 2 ฤดูกาลต่อมา ชลุปป์หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาลงเล่น 65 นัดรวมทุกรายการ ยิง 6 ประตู แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในถ้วยใดๆ

ฤดูกาล 2022/23 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ เป็นตัวหลักของ คริสตัล พาเลซ ตั้งแต้ต้นฤดูกาล พลาดการลงเล่นพรีเมียร์ลีกแค่ 4 นัด (ตัวจริง 30 สำรอง 4) สามารถยิง 1 ประตูใส่ แมนฯยู (แพ้ 1-2) และยิงอีก 1 ประตูใส่ อาร์เซน่อล (แพ้ 1-4) จบฤดูกาลด้วยการยิง 3 ประตูในพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 2023/24 เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ยังอยู่กับ คริสตัล พาเลซ เช่นเดิม หลังผ่านไป 3 นัด ได้ลงเป็นตัวจริงทั้งสามนัด ยิง 0 ประตู
#6

เนย์มาร์ นักฟุตบอลชาวบราซิล ที่ในอนาคต ก็คงกลายเป็นตำนานอีกคนตามรอยนักเตะรุ่นพี่อย่างแน่นอน เขาสร้างชื่อให้กับตัวเองตั้งแต่อายุยังนั้น และปัจจุบัน เขาก็ได้กลายมาเป็นนักเตะที่คนทั่วโลกรู้จัก แล้วเขามีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง ลองมาดูกัน

ชื่อเต็ม เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์
วันเกิด 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 (31 ปี)
สถานที่เกิด โมฌีดัสกรูซิส บราซิล
ส่วนสูง 1.75 ม. (5 ฟุต 9 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองหน้า

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ เนย์มาร์

เนย์มาร์ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลด้วยมาตั้งแต่ยังเด็ก เหมือนกับเด็กบราซิลทั่วไป และที่บราซิล เขาสร้างชื่อให้กับตัวเองอย่างมาก ด้วยฝีเท้าที่จัดจ้าน การเลี้ยงบอลที่สวยงาม และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่เนื้อหอมตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเริ่มเล่นให้กับทีมสโมสร ซานโตส ตั้งแต่ปี 2003-2009 และที่นี่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้กวาดรางวัลมากนับไม่ถ้วน จากการลงเล่น 103 นัด เขายิงประตูไปได้ทั้งหมด 54 ประตู ถือว่าเยอะมาก

หลังจากนั้นในปี 2013 บาร์เซโลน่า ก็เสนอซื้อตัวของ เนย์มาร์ มาร่วมทีม ด้วยเงินที่สูงถึง 48.6 ล้านปอนด์ และที่นี่เขาก็สร้างชื่อให้ตัวเองมากขึ้นไปอีก ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ทุกรายการ ตั้งแต่แชมป์ ลาลีกา (ฤดูกาล 2014–15 และ 2015–16) แชมป์ยุโรป UEFA Champions League ฤดูกาล (2014–15) และอีกมากมาย ประกอบกับเพื่อนร่วมทีมที่ถูกคออย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ ลีโอเนล เมสซี่ ทำให้ บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดทีมหนึ่งของโลกไปเลย ที่นี่เขาได้แชมป์หลายถ้วย

หลังจากนั้นในปี 2017 เนย์มาร์ ก็ได้ย้ายไปซบกับ  ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เนื่องจากเขามีปัญหากับทางโค้ชของบาร์เซโลน่า มูลค่าของการย้ายทีมพร้อมกับฉีกสัญญาของ เนย์มาร์ สูงถึง 222 ล้านยูโร ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดในโลกแล้ว และที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เขาก็ได้มีโอกาสร่วมทีมกับ เมสซี่ อีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวย้ายจาก บาร์เซโลน่า มา แต่หลังจากที่ร่วมทีมกันได้ไม่นาน หลังจบฤดูกาลนั้น ทั้งสองก็ต้องแยกย้ายจากกันอีกครั้ง
โดยในครั้งนี้ในปี 2023  เนย์มาร์ ได้ย้ายไปร่วมทีมกับ สโมสรอัลฮิลาล ลีกในประเทศ ซาอุดิอาระเบีย และเพิ่งได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรก

รางวัลส่วนตัว
•   รางวัล Chuteira de Ouro (รองเท้าทองคำ) ของรายการ Campeonato Brasileiro Série A ปี 2010, 2011, 2012
•   Bola de Prata ปี2010, 2011
•   ผู้เล่นที่ดีที่สุด Campeonato Brasileiro Série A ปี 2011
•   นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอลโลกปี 2011
•   ได้รางวัล FIFA Puskás Award ปี 2011
•   La Liga Best World Player ฤดูกาล 2014–15
•   ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกทีมแห่งฤดูกาล 2014-15
#7


ประวัติ เดแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษของ อาร์เซน่อล
ทีมชาติ : อังกฤษ 43 นัด – 3 ประตู (2019-?)
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล 3 นัด – 0 ประตู (2023-?)

เดแคลน ไรซ์ (Declan Rice) เกิดวันที่ 14 มกราคม 1999 ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นเล่นฟุตบอล ระดับเยาวชนกับอคาเดมี่ของสโมสร เชลซี ระหว่างปี 2006-2013 จากนั้นย้ายเข้าสู่อคาเดมี่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 2013-2015 แล้วถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลังจากนั้น โดยในฤดูกาล 2016/17 ได้สัมผัสพรีเมียร์ลีก 1 นัด

ฤดูกาล 2017/18 เดแคลน ไรซ์ ได้รับโอกาสมากขึ้น ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 26 นัด (ตัวจริง 15 สำรอง 11) โดยในช่วง 9 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด จากนั้นในฤดูกาล 2018/19 ไรซ์ยึดตัวหลักของทีมได้อย่างเต็มตัว ในวันที่ 12 มกราคม 2019 เขายิง 1 ประตู ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 22 ช่วยให้ เวสต์แฮม เอาชนะ อาร์เซน่อล 1-0 จากนั้นในวันที่ 2 มีนาคม 2019 เขายิงอีก 1 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล 2-0 จบฤดูกาลนั้น ไรซ์ลงเล่น 38 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู จ่าย 1 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2019/20 เดแคลน ไรซ์ ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกครบ 90 นาทีทุกนัด ยิงได้ 1 ประตู ในเกมชนะ วัตฟอร์ด 3-1 แล้วได้ลงเล่นในฐานะกัปตันทีม 4 นัด ในเกมกับ เลสเตอร์ (แพ้ 1-2) เชลซี (ชนะ 3-2) นิวคาสเซิล (เสมอ 2-2) และ เบิร์นลีย์ (แพ้ 0-1)

ฤดูกาล 2020/21 เดแคลน ไรซ์ รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมขุนค้อนเต็มตัว พลาดลงสนามในพรีเมียร์ลีก 6 นัด เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ยิง 1 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 24 ที่เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 แล้วยิงอีก 1 ประตู ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 38 ที่เอาชนะ เซาแธมป์ตั้น 3-0 จบฤดูกาลนั้น ไรซ์ลงเล่น 35 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู จ่าย 1 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2021/22 เดแคลน ไรซ์ ยังเป็นกำลังสำคัญของ เวสต์แฮม ลงสนามในพรีเมียร์ลีก 36 นัด ยิง 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 10 ที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1 แล้วนั่นเป็นนัดเดียวที่ยิงได้ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีส่วนร่วมใน ยูโรป้าลีก 10 จาก 12 นัดที่ทีมลงสนาม เปิดหัวสองนัดแรก ด้วยการยิง 1 ประตูในเกมชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 2-0 และอีก 1 ประตู ในเกมชนะ ราปิด เวียนนา 2-0 พร้อมกับพาทีม ผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะไปแพ้ แฟรงค์เฟิร์ต 1-2 และ 0-1 จอดป้ายแค่รอบนั้น

ฤดูกาล 2022/23 ผลงานของ เดแคลน ไรซ์ ดีขึ้นกว่าเดิม ลงเล่นมากถึง 50 นัดรวมทุกรายการ ยิง 5 ประตู จ่าย 4 แอสซิสต์ เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ค้าแข้งมา แต่ผลงานของ เวสต์แฮม ในพรีเมียร์ลีกกลับกลายเป็นทีมหนีตกชั้น แต่ก็อยู่รอดปลอดภัยในท้ายที่สุด นอกจากนั้นแล้ว ไรซ์ยังมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก 2022/23 โดยไรซ์ได้ลงเล่น 11 จาก 13 นัด หนึ่งในนั้นคือการอยู่ครบ 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะ ฟิออเรนติน่า 1-0

ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) เดแคลน ไรซ์ ย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 105 ล้านปอนด์ กลายเป็นสถิติใหม่พรีเมียร์ลีก แล้วถูก มอยเซส ไคเซโด้ (115 ล้านปอนด์) ทำลายในเวลาต่อมา
#8

การย้ายทีมล่าสุดของ มอยเซส ไคเซโด้ จาก ไบร์ทตัน สู่ เชลซี กลายเป็นการย้ายทีมที่ฮือฮามากที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะเป็นการแย่งตัวกันอย่างดุเดือดระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่ในอังกฤษระหว่าง เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ก่อนจะเป็นสิงโตน้ำเงินครามสมหวังคว้าเอากองกลางเชิงรับรายนี้ไปได้ ด้วยมูลค่าสูงถึง 115 ล้านปอนด์ แล้วด้วยมูลค่าที่สูงขนาดนี้ ได้ทำให้ ไคเซโด้  กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกคนใหม่ทันที แซงเจ้าของสถิติเดิมอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ย้ายทีมด้วยค่าตัว 106.8 ล้านปอนด์ไปอย่างราบคาบ

ดังนั้นวันนี้จะมาสรุปยัง 10 อันดับนักเตะที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคปัจจุบัน 2023 ที่ค่าตัวแพงระยับที่มีนักเตะที่คุ้มค่า ล้มเหลว และรอการพิสูจน์ตัวว่าพวกเขาดีพอหรือคุ้มค่าแค่ไหนกับค่าตัวที่มี

10 อันดับแข้งสุดแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก 2023

อันดับ 10 แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2019 ค่าตัว 80 ล้านปอนด์ (นี่คือนักเตะกองหลังที่แพงที่สุดในโลกคนปัจจุบันอีกด้วย)

อันดับ 9 แอนโทนี่ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2022 ค่าตัว 82.2 ล้านปอนด์

อันดับ 8 มีคายโล มูดรีค ย้ายจาก ชัคเตอร์ โดเนตส์ก สู่ เชลซี เมื่อปี 2023 ค่าตัว 88.5 ล้านปอนด์

อันดับ 7 โรเมลู ลูกากู ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2017 ค่าตัว 90 ล้านปอนด์

อันดับ 6 ปอล ป็อกบา ย้ายจาก ยูเวนตุส สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 ค่าตัว 93.25 ล้านปอนด์

อันดับ 5 โรเมลู ลูกากู ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน สู่ เชลซี เมื่อปี 2021 ค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์

อันดับ 4 แจ็ค กรีลิช ย้ายจาก แอสตัส วิลล่า สู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2021 ค่าตัว 100 ล้านปอนด์

อันดับ 3 ดีแคลน ไรซ์ ย้ายจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สู่ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2023 ค่าตัว 105 ล้านปอนด์

อันดับ 2 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ย้ายจาก เบนฟิก้า สู่ เชลซี เมื่อปี 2023 106.8 ล้านปอนด์

และอันดับ 1 มอยเซส ไคเซโด้ จาก ไบร์ทตัน สู่ เชลซี เมื่อปี 2023 ค่าตัว 115 ล้านปอนด์

จาก TOP 10 นักเตะที่แพงที่สุดของพรีเมียร์ลีก ค่าตัวในแต่ละปีจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ เชลซี ที่ทุ่มซื้อนักเตะหนักมากๆ มีถึง 3 คนที่อยู่ใน 5 อันดับแรก และในทั้ง 10 อันดับนี้มี ลูกากู คือนักเตะคนเดียว ที่ติดอันดับการย้ายทีมถึง 2 ครั้ง แต่นับได้ว่าผลงานออกมาล้มเหลวทั้งหมดเช่นกัน แล้วจาก 10 อันดับนี้ยังคงไม่มี 2 ทีมดังอย่าง แมนยูกับลิเวอร์พูล ที่ทุ่มคว้านักเตะระดับ 100 ล้านปอนด์เข้าสู่ทีมเลย
#9

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำตกอยู่เยอะมากๆ แต่ละแห่งแต่ละที่จะมีความสวยความโดดเด่นที่น่าสนใจเป็นของตัวเอง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหลชื่นชอบทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเยียน แล้วหากพูดถึงน้ำตกแล้ว น้ำตกที่ถูกยกให้ว่าจะได้ต้องไปให้ได้สักครั้งหากเป็นคนที่ชื่นชอบน้ำตก ก็คือ น้ำตกทีลอซู เพราะที่นี่ถูกยกให้เป็นราชาของน้ำตกในไทยอย่างแท้จริง จากความสวยอลังการที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีน้ำตกแบบนี้อยู่ด้วย แล้วความสุดยอดของที่นี่ยังไปติดอันดับโลกอีกต่างหาก เรียกได้ว่าไม่เด็ดจริงไม่ดีจริง คงจะไม่ทำให้ น้ำตกทีลอซู โด่งดังไกลไปในระดับโลกแน่นอน

น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ที่จังหวัดตาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทางจังหวัดให้ความใส่ใจดูแลคอยพัฒนามาตลอดหลายปี เช่น การทำทางที่เคยลำบากยากเข็ญกว่าจะเข้าไปถึงตัวน้ำตก ได้ทำทางให้มันง่ายขึ้น ทำให้การเดินทางสะดวกกว่าเดิมมาก เปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ามาชมความสวยงามอร่ามตาได้เยอะกว่าเดิมอีกด้วย

ความสุดยอดของน้ำตกทีลอซู ที่นี่คือน้ำตกธรรมชาติที่สวยงามกลางป่าเขาอย่างสวยสุดสมบูณ์แบบ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ความกว้างประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของทวีปเอเชีย ความสวยงามของที่นี่มารับชมได้ตลอดทั้งปี โดยน้ำจะไหลลงมาตามธรรมชาติกระทบกับหินในแต่ละชั้นกระทั่งหล่นลงมาบนผิวน้ำ เผยให้เห็นทั้งสายรุ้งอยู่ตลอดเวลา เศษของไอน้ำได้กระจายอยู่รอบบริเวณอย่างสดชื่นรื่นรมย์ใจ การมาพักผ่อนสบายๆบริเวณน้ำตก มันคือความสุขใจที่เกินบรรยายอย่างแท้จริง

และในจังหวัดตากที่เที่ยวไม่ได้มีดีเพียงแค่น้ำตกทีลอซูเท่านั้น เพราะเมื่อหากมาที่นี่แล้ว จะมีกิจกรรมน่าสนใจโดยเฉพาะการผจญภัยรออยู่มากมาย อาทิ การเข้าไปชมถ้ำตะโค๊ะบิ เป็นธรรมชาติที่สวยงาม มีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ที่น่าไปลองสักครั้ง แล้วที่นิยมไม่แพ้กันคือการเดินศึกษาธรรมชาติที่อุ้มผาง ที่มีหลายดอยที่น่าสนใจเต็มไปด้วยความสวยงาม ดอยมะม่วงสามหมื่น หรือ ดอยหัวหมด ที่รับรองว่าจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม และพอตกเย็นไปเดินชิลๆสบายๆยังถนนคนเดินอุ้มผาง หาของกินแสนอร่อยได้อย่างมากมายละลานตา

สรุปแล้วการมาเที่ยวยังจังหวัดตากได้ครบรสอย่างคุ้มค่าจริงๆ แค่มาเห็นน้ำตกทีลอซูด้วยตาตัวเอง จะรู้ได้ทันทีเลยว่าทำไมน้ำตกที่นี่ถึงถูกยกให้เห็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย เพราะมันสุดยอดอลังการสมราคานั่นเอง
#10


หาดไร่เลย์ จ.กระบี่ ชื่อนี้ที่ทุกคนคุ้นเคย เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในหาดที่สวยที่สุดในโลกในปี 2023 อีกด้วย ฉะนั้นการันตีความสวยงามได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มาเที่ยวที่นี่ ไม่ใช่จะมีแต่น้ำทะเล หรือว่าหาดทรายขาดสะอาดอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ และทุกคนต้องมาเที่ยวให้ได้ ได้เห็น หาดไร่เลย์ คุณจะนึกว่าตัวเองอยู่ในภาพวาดเลยแหละ เพราะสวยงามมาก อีกทั้งยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนด้วย นั่นก็คือหมู่บ้านของชาวประมง ที่ยังคงดำเนินชีวิตเหมือนกับในอดีตไม่ผิดเพี้ยน

บางคนอาจจะเข้าใจว่า หาดไร่เลย์ เหมือนกับเกาะอื่นๆ อันที่จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น ที่นี่ไม่ได้เป็นเกาะ แต่เป็นหากที่ติดกับแผ่นดินข้างนอกเลย เพียงแต่ว่าการเดินทางต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น เพราะมีภูเขาสูงกั้นเอาไว้ ทำให้ต้องนั่งเรืออ้อม แต่ก็เป็นการชมวิวที่สวยงามอีกมุมหนึ่ง คนที่อยากจะเที่ยวหาด เที่ยวทะเล และชื่นชอบกิจกรรมอื่นๆ ด้วย มาที่นี่ คุณสนุกได้ครบทุกอย่าง และที่หาดยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้กับนักท่องเที่ยวได้ร่วมอีกด้วย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เมื่อคุณมาเที่ยวที่ หาดไร่เลย์ กิจกรรมที่ถือว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ก็คือ
• ชมพระอาทิตย์ตกดิน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด คนที่มาเที่ยว หาดไร่เลย์ ต้องมาทุกคน คุณจะรู้สึกเหมือนกับอยู่ในจินตนาการยังไงยังงั้นเลย
• ปีนผา คนที่ชื่นชอบความท้าทาย อยากจะออกกำลังกายสนุกๆ กิจกรรมปีนผาน่าจะถูกใจคุณไม่มากก็น้อย
• ถ้ำพระนาง ลองเข้าไปชมความอลังการของถ้ำ ที่มีหินงอก-หินย้อย ที่สวยงามมากมาย และเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาขอพรกันเยอะทีเดียว
• จุดชมวิว เป็นจุดที่เอาไว้ชมความงามของหาดไร่เลย์ทั้งหมด
• ถ้ำค้างคาว มาชมความงามของชายหาดตอนเย็นๆ พร้อมกับรอดูฝูงค้างคาวจำนวนมากออกหากิน เป็นภาพที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย

การเดินทาง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ได้หลายวิธี ทั้งรถยนต์ส่วนตัว เครื่องบิน รถโดยสาร หรือว่ารถไฟ ก็สะดวกทั้งสิ้น หลังจากมาถึงแล้ว ต้องนั่งเรือต่อไปที่หาดไร่เลย์ เพราะไม่มีถนนเข้าไปได้ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงหาก

ที่พักและอาหาร
ที่หาดไร่เลย์ มีที่พักหลายระดับให้เลือก ตั้งแต่ทั่วไป ไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว และมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ เพียงพอกับนักท่องเที่ยว และยังมีบริการเสริมที่ครบถ้วนอีกต่างหาก เช่นบริการซักผ้า ห้องประชุม เป็นต้น ส่วนอาหารก็มีทั้งบริการของทางโรงแรม และร้านอาหารทั่วไปอีกมากมาย

ค่าเข้าชม: ฟรี

สถานที่ตั้งของหาดไร่เลย์
หาดไร่เลย์ อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โทรศัพท์ 07-562-2163